อยากขายของกับ Etsy ต้องทำอะไรบ้าง?

ขายของกับ Etsy

Etsy แพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ที่กำลังมาแรง

Etsy เริ่มต้นจากแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ที่เน้นไปทางประเภทของแฮนเมด สินค้าทำมือต่าง ๆ แต่ในปัจจุบัน Etsy กลายเป็นแพลตฟอร์มขายสินค้าขนาดใหญ่ที่ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่สินค้าแฮนเมดเท่านั้นแล้ว หากสินค้าของคุณเป็นงานศิลปะ เช่นของตกแต่งบ้าน เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับต่าง ๆ การขายสินค้าผ่าน Etsy ก็น่าจะเป็นช่องทางหนึ่งที่ช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจของคุณได้เป็นอย่างดี

เริ่มต้นขายของกับ Etsy

ขั้นตอนการขายของกับ Etsy สามารถทำได้ง่ายและฟรี! เพียงทำตามขั้นตอนดังนี้

1. สร้าง Account ของ Etsy

ก่อนที่จะเริ่มต้นขายของกับ Etsy คุณจำเป็นที่จะต้องมี Account ก่อน
เข้าไปที่เว็ปไซต์ Etsy => How to sell on Etsy Thailand และคลิก “Get Started”
ใส่ email ที่คุณต้องการใช้ (แนะนำให้ใช้ email แยกเฉพาะของการเปิดร้านเพื่อความสะดวกในการจัดการร้าน)
และเมื่อกรอก email เสร็จแล้วจึงทำตามขั้นตอนของทางเว็ปไซต์

2. สร้างหน้าร้านและเลือกรูปแบบของร้าน

เมื่อคุณมี Account แล้วขั้นตอนต่อไปคือ การตั้งค่าร้านของคุณโดยคุณสามารถเลือก ภาษา, ประเทศที่ตั้งร้าน, และสกุลเงินที่ต้องการ

ขั้นตอนถัดไปคือการตั้งชื่อร้านของคุณ ขั้นตอนนี้สำคัญมากจึงอยากให้คุณใส่ใจในการตั้งชื่อร้าน เพราะการตั้งชื่อร้านที่ดี จดจำง่าย คือหนึ่งในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ของคุณที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ

การตั้งชื่อร้านอาจจะเป็นเรื่องยากหากคุณยังไม่มีชื่อแบรนด์ของตัวเอง ยังไงลองดูไอเดียการตั้งชื่อร้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนนะคะ

  • ตั้งชื่อโดยใช้ผนวกชื่อสินค้าของคุณเข้ากับคำที่มีความหมายดี ๆ เช่น Grace bracelet หรือ Starlight purse
  • ใช้คำที่มีความหมายดี จากภาษาอื่น ๆ หรือชื่อที่มีความเป็นนามธรรม
  • ลองผสมคำ สองหรือสามคำเข้าด้วยกันเพื่อให้กลายเป็นคำใหม่ที่ สามารถอ่านออกเสียงได้ ฟังแล้วคุ้นหู
  • ใช้ชื่อของคุณเอง แต่เสริมลูกเล่นเข้าไป หรือลองสลับตำแหน่งการเรียงตัวอักษรของคุณให้เป็นคำใหม่
  • ใช้เครื่องมือ AI เช่น (Business Name Generator – free AI-powered naming tool – Namelix) ช่วยในการหาไอเดียตั้งชื่อที่ไม่ซ้ำกับแบรนด์อื่น ๆ

*ข้อควรระวัง คุณสามารถเปลี่ยนชื่อร้านของคุณกี่ครั้งก็ได้ตามที่ต้องการ ก่อนจะทำการเปิดร้าน หากเปิดร้านไปแล้ว คุณจะสามารถเปลี่ยนชื่อร้านของคุณได้อีกเพียงแค่ 1 ครั้ง เท่านั้นดังนั้นควรตัดสินใจให้ดีก่อนการเปิดร้าน

3. ใส่สินค้าของคุณเข้าไปในร้าน

เอาล่ะตอนนี้คุณก็ใกล้ที่จะได้เริ่มต้นเปิดร้านใน Etsy แล้วตอนนี้คุณก็ต้องนำสินค้าของคุณเข้ามาวางขายภายในร้านค้า การตั้งขายสินค้า 1 ชิ้นสามารถใส่รูปได้สูงสุดถึง 10 รูป นอกจากนี้ คุณยังสามารถ upload วิดีโอ 5-15 วินาทีสำหรับสินค้าของคุณได้อีกด้วย

เมื่อลงรายละเอียดสินค้าและ upload รูปสินค้าลงไปแล้ว อย่าลืมทำการใส่สินค้าเข้าหมวดหมู่ที่ถูกต้อง ด้วยการ Assign to category. และระบุวิธีการจัดส่งสินค้าของคุณด้วย เมื่อพร้อมแล้วก็กดปุ่ม Publish เพื่อแสดงสินค้าของคุณบนหน้าร้านค้าได้เลย แต่ถ้าหากยังไม่ต้องการจะแสดงสินค้าตอนนี้ สามารถกดปุ่ม Save as draft เพื่อกลับมาจัดการต่อภายหลังได้

4. เลือกช่องทางการรับชำระเงิน

ตอนนี้สินค้าของคุณก็พร้อมขายแล้วถึงขั้นตอนนี้ คุณก็ควรจะระบุวิธีการรับชำระเงินในทันทีเพื่อไม่ให้เสียโอกาสจากการทำกำไร โดยปัจจุบัน (มีนาคม 2567) Etsy รองรับการชำระเงินให้ผู้ขายเฉพาะ Payoneer

5. เลือกวิธีการจัดส่งสินค้า

การเลือกวิธีจัดส่งสินค้าของคุณก็เป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญสำหรับการทำให้ร้านค้าของคุณประสบความสำเร็จ เพราะลูกค้าหลาย ๆ ท่านก็คงไม่อยากรอสินค้าเป็นเวลานานเกินไป โดยคุณมีตัวเลือกการจัดส่งอยู่ 2 แบบ

  • จัดการส่งสินค้าแบบตั้งค่าเป็นรายชิ้น วิธีนี้มีข้อดีคือ เราสามารถจัดการได้ตามความต้องการของลูกค้า เช่นลูกค้าต้องการให้เราจัดส่งสินค้าแบบด่วน เนื่องจากต้องการให้สินค้ามาถึงทันวันสำคัญ ก็อาจจะต้องใช้บริการส่งด่วนอย่าง DHL, FedEx, UPS เป็นต้น แต่หากไม่ได้จำเป็นต้องส่งด่วน เราก็อาจจะมีตัวเลือกในราคาที่ถูกกว่าให้ลูกค้าได้เลือก แต่วิธีนี้จะทำให้คุณต้องเสียเวลากับการเลือกการจัดส่ง หากร้านค้าของคุณมีสินค้าเป็นจำนวนมาก ก็อาจจะทำให้การทำการจัดส่งสินค้ามีความวุ่นวาย
  • ตั้งค่าการจัดส่งสินค้าให้สินค้าทุกชิ้นเหมือนกันหมด วิธีนี้จะมีข้อดีคือ คุณสามารถจัดการออเดอร์สินค้าเป็นจำนวนมากได้อย่างง่ายดาย และไม่ต้องเสียเวลากับการเลือกวิธีการจัดส่งสินค้า แต่ข้อเสียคือ ลูกค้าของคุณจะไม่มีตัวเลือก และคุณอาจจะเสียลูกค้าให้กับคู่แข่งที่อาจจะมีตัวเลือกการจัดส่งที่ถูกกว่า

6. ตกแต่งหน้าร้านของคุณให้ดูสวยงาม

การตกแต่งหน้าร้านให้สวยงาม ก็ย่อมดึงดูดสายตาของลูกค้าให้เข้ามาแวะเยี่ยมชมสินค้าของเรา ดังนั้นถึงแม้จะเป็นร้านค้าออนไลน์ใน Etsy ก็ควรให้ความสำคัญกับการตกแต่งภาพสินค้าให้ มีความสวยงาม ดึงดูดสายตาของผู้เข้าชมให้ เข้ามาดูสินค้าของเรา เลือก Font, เลือกรูปแบบของสีที่เข้ากันกับสินค้าของเรา

7. เปิดทำการ!

ยินดีด้วย! ตอนนี้คุณก็ได้ทำทุกอย่างเพื่อให้ร้านค้าของคุณพร้อมจะเปิดขายแล้ว เริ่มธุรกิจของคุณกับ Etsy ได้เลย และอย่าลืม share ร้านค้าของคุณตามช่องทางต่าง ๆ ด้วยล่ะ

การใช้ช่องทาง Social media ต่าง ๆ ช่วยโปรโมทร้านของคุณ อาจจะช่วยเพิ่มการมองเห็น และดึงดูดคนที่อาจจะมาเป็นลูกค้าในอนาคตของคุณ โดยเฉพาะ SNS อย่าง Instragram, Tiktok ที่มีผู้คนเข้าใช้งานเพื่อเปิดดูรูปสวย ๆ หรือเปิดคลิปสั้น ๆ หาความเพลิดเพลิน ก็อาจจะได้พบกับร้านของคุณโดยบังเอิญเข้าก็ได้

ขายสินค้าได้แล้ว แต่ลูกค้าอยู่ต่างประเทศ จะส่งสินค้าให้ลูกค้ายังไง?

ไม่ต้องกังวลไป Siam.delivery ยินดีให้คำปรึกษาในการส่งสินค้าของคุณ ให้ถึงมือลูกค้าอย่างรวดเร็ว ราคาถูก และปลอดภัย ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย หากคุณสนใจที่จะทำการส่งสินค้าไปต่างประเทศแล้วล่ะก็ ลองติดต่อเราผ่านช่องทางต่าง ๆ เหล่านี้ได้เลย

Facebook – SXD Express ส่งของไปต่างประเทศ

https://line.me/R/ti/p/%40607nlmak – Line

โทร 089-345-1000

เรื่องน่ารู้ส่งของไปต่างประเทศมีข้อควรระวังอะไรบ้าง

ข้อควรระวังส่งของไปต่างประเทศ

การส่งของไปต่างประเทศโดยเครื่องบินจะมีกฏระเบียบข้อบังคับที่ รัดกุมกว่าการส่งทางอื่นเล็กน้อย

เนื่องจากการส่งของผ่านทางอากาศทางศุลกากรขาเข้าของประเทศปลายทาง จะมีการตรวจสอบพัสดุที่นำเข้าทุกกล่อง ดังนั้นเพื่อให้การส่งพัสดุไปต่างประเทศของคุณเป็นไปได้อย่างราบรื่น ไม่มีปัญหาในภายหลังจึงมีข้อควรระวังดังนี้

ตรวจสอบสินค้าและประเทศปลายทางที่ต้องการส่ง

สำหรับการส่งออกพัสดุไปต่างประเทศ แต่ละประเทศจะมีข้อกำหนดในการนำเข้าสินค้าแตกต่างกันดังนั้นคุณควรต้องตรวจสอบพัสดุของคุณก่อนว่าไม่มีสิ่งที่เป็นข้อห้ามในการนำเข้าของประเทศปลายทาง แต่โดยมากแล้วสิ่งที่ประเทศส่วนใหญ่ห้ามนำเข้าจะมีดังนี้

  • เนื้อสัตว์ที่ไม่ผ่านการแปรรูป
  • ชิ้นส่วนมนุษย์ หรือเถ้ากระดูก
  • สัตว์ที่ยังมีชีวิต
  • ชิ้นส่วนของสัตว์ เช่น งาช้าง, หูฉลาม
  • ทองแท่ง
  • อัญมณีที่ยังไม่ได้แปรรูปเป็นเครื่องประดับ
  • เงินสด (ที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย)
  • อาวุธปืน วัตถุระเบิด หรืออุปกรณ์จุดระเบิด
  • สินค้าผิดกฎหมายเช่น สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ กระเป๋าแบรนด์เนมปลอม เสื้อผ้าแบรนด์เนมปลอม
  • ยาเสพย์ติด

นอกจากนี้บางประเทศก็จะมีผลิตภัณฑ์ที่ห้ามนำเข้าเพิ่มเติมนอกเช่น ประเทศญี่ปุ่นห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์จากนม เช่นนมอัดเม็ด ชีส รวมทั้งธัญพืชและเมล็ดผักผลไม้ทุกชนิด สหรัฐอเมริกาและประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป ห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเนื้อสัตว์ เช่น หมูหยอง, หมูแผ่น, หมูยอ, กุนเชียง

ทำรายละเอียดพัสดุในกล่องและราคาของทั้งหมด

ในการส่งออกพัสดุไปต่างประเทศ ทางศุลกากรขาเข้าของประเทศปลายทางจะมีการตรวจสอบรายการของพัสดุทุกชิ้นภายในกล่อง ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของผู้ส่งออกพัสดุ ที่จะต้องแจกแจงรายละเอียดของพัสดุทุกชิ้น และราคาของภายในกล่อง และแต่ละประเทศจะมีอัตราการยกเว้นภาษีนำเข้าไม่เหมือนกัน เช่น สหรัฐอเมริกา หากมูลค่าพัสดุในกล่องนั้นมีมูลค่ารวมกันไม่เกิน 800 USD (ประมาณ 28,000 บาท) จะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า ประเทศออสเตรเลีย 1,000 AUD (ประมาณ 23,000 บาท) ประเทศญี่ปุ่น 10,000 JPY (ประมาณ 2,400 บาท)

ดังนั้นจะเห็นได้ว่าบางประเทศสามารถส่งสินค้าได้ในปริมาณมากได้ที่ผู้รับปลายทางไม่ต้องกังวลเรื่อง การเสียภาษีปลายทาง แต่บางประเทศเพียงส่งของเล็กน้อยผู้รับปลายทางก็ต้องเสียภาษีนำเข้าแล้ว การทำใบจ่าหน้าพัสดุที่มีรายละเอียดครบถ้วนจึงสำคัญมาก

และเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าของเรา คุณลูกค้าสามารถนำสินค้ามาให้เราช่วยจัดทำใบจ่าหน้าพัสดุของคุณได้ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เราจะจัดทำใบจ่าหน้าพัสดุของคุณให้มีความเหมาะสมกับสินค้า ช่วยตรวจสอบพัสดุของคุณเบื้องต้น เพื่อให้คุณลูกค้าได้ค่าส่งที่ถูกที่สุด

จัดเตรียมเอกสารสำคัญ สำหรับการส่งออกพัสดุ

ในการส่งออกพัสดุบางประเภทจะทาง ศุลกากรจะต้องการเอกสารเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาว่าพัสดุนั้นจะอนุญาตให้ทำการส่งออกหรือนำเข้าได้หรือไม่

ตัวอย่างเช่น การส่งออกพระพุทธรูป จำเป็นจะต้องกรอกแบบฟอร์มการขออนุญาต ตามแบบ ศก.6 และเตรียมเอกสารหลักฐานให้ครบถ้วน

หรือการส่งออกเสื้อผ้า สิ่งทอ เครื่องนุ่งห่มของไทยหากส่งไปประเทศญี่ปุ่นจำเป็นที่จะต้องทำเอกสาร Certificate of origin เพื่อให้ทางศุลกากรประเทศปลายทางได้ทราบถึงแหล่งกำเนิดของสินค้า โดยหากไม่ทำเอกสารไป พัสดุของคุณอาจจะถูกปฏิเสธการนำเข้าได้

การส่งออกพัสดุที่มีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเป็นส่วนประกอบ จำเป็นต้องมีเอกสารรับรองความปลอดภัยคือ MSDS (Material Safety Data Sheet) ซึ่งเป็นเอกสารที่ระบุข้อมูลด้านความปลอดภัยของสารเคมี เพื่อเป็นการรับรองว่าพัสดุที่ส่งไปนั้นจะไม่เกิดอันตราย และแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องได้ทราบว่าต้องทำการจัดเก็บพัสดุนั้นได้อย่างไร

โดยทาง Siam.delivery มีบริการอำนวยความสะดวกในการจัดทำเอกสารต่าง ๆ ให้กับลูกค้าของเราเพียงแจ้งความต้องการที่จะส่งออกพัสดุให้เราทราบ เรามีทีมงานที่พร้อมจะให้คำแนะนำในการส่งออกสินค้า และจัดทำเอกสารให้กับลูกค้าทุกท่าน

ตรวจสอบชื่อ ที่อยู่ และช่องทางติดต่อของผู้รับ/ผู้ส่งให้ถูกต้อง

ในการส่งพัสดุไปต่างประเทศนั้นในบางครั้งหากพัสดุมีปัญหากับทางศุลกากร ทางผู้ให้บริการขนส่งอย่าง DHL อาจจะต้องติดต่อกับผู้ส่งออกสินค้าเพื่อขอข้อมูลหรือเอกสารเพิ่มเติม เพื่อทำการนำพัสดุที่ส่งให้ผ่านพิธีการทางศุลกากร และในกรณีที่บางประเทศผู้รับปลายทางใช้ที่อยู่เป็น PO box ทาง DHL จะไม่สามารถนำส่งได้เนื่องจากการใช้บริการ PO box ไม่ใช่ที่อยู่ถาวร ซึ่งปกติแล้วการจัดส่งของ DHL จะต้องเป็นการส่งให้ถึงมือผู้รับพัสดุปลายทางเท่านั้น

และเนื่องจากหลาย ๆ ประเทศหากต้องมีการเสียภาษีนำเข้าโดยปกติแล้ว DHL จะทำการชำระภาษีนำเข้าให้ก่อน และจะเรียกเก็บพร้อมค่าบริการจากผู้รับพัสดุปลายทางในภายหลัก ดังนั้นจึงควรตรวจสอบ ชื่อ,ที่อยู่ และช่องทางการติดต่อของผู้รับปลายทางให้ถูกต้องทุกครั้งก่อนการนำส่ง

อยากส่งของไปต่างประเทศง่าย ๆ ทำยังไงดี?

การส่งของไปต่างประเทศแม้จะมีกฎระเบียบต่าง ๆ ที่ดูยุ่งยากและน่าปวดหัว แถมแต่ละประเทศก็มีกฎต่างกัน แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้ยากอย่างที่คิดเพียงคุณลองติดต่อมาทาง Siam.delivery เรามีทีมงานผู้เชี่ยวชาญในการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศมากว่า 10 ปีพร้อมให้คำแนะนำในการส่งออกสินค้าของคุณ ช่วยอำนวยความสะดวก ทำให้การส่งออกเป็นเรื่องง่าย ให้คุณมีโอกาสในการขยายธุรกิจ แข่งขันในตลาดโลกได้

ติดต่อเราได้ตามช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

Facebook – SXD Express ส่งของไปต่างประเทศ

https://line.me/R/ti/p/%40607nlmak – Line

โทร 089-345-1000

ส่งของต่างประเทศนิยมส่งไปที่ไหนกันบ้าง?

ส่งของไปต่างประเทศ อเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เกาหลี

คนไทยไปที่ไหนก็มักจะติดการใช้ของไทย หรือคิดถึงอาหารไทย ก็ไม่แปลกหรอกเนอะเพราะอาหารไทยทั้งอร่อยและราคาไม่แพง ดังนั้นเราจึงมักจะเห็นคนไทยส่งของกินของใช้ดี ๆ ไปให้กับคนที่ไปอาศัยอยู่ต่างประเทศเสมอ ๆ แล้วประเทศเหล่านั้นคือประเทศอะไรบ้าง มาดูกันเลยค่ะ

สหรัฐอเมริกา

สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ มีคนไทยอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากที่สุดอ้างอิงจากสถิติที่กระทรวงการต่างประเทศได้มีการเปิดเผยออกมานั้น มีคนไทยอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาเกือบ 500,000 คนเลยทีเดียว ดังนั้น สหรัฐอเมริกาจึงเป็นประเทศที่มีการส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคไปเป็นจำนวนมาก โดยของที่มักส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาก็มักจะเป็นของกินของใช้ท้องถิ่นบ้านเรา ที่ไม่สามารถหาซื้อได้โดยง่าย เช่นน้ำพริกต่าง ๆ ผลไม้ดอง ชุดพื้นเมือง ปลาร้าบรรจุขวด ถึงแม้จะไกลจากประเทศไทย แต่การส่งของไปสหรัฐอเมริกาโดย DHL ก็ใช้เวลาเพียง 3-5 วันทำการเท่านั้น เพราะเป็นการส่งแบบ Express fast shipping ทางเครื่องบิน

ออสเตรเลีย

ออสเตรเลียนั้นเป็นประเทศที่มีคนไทยอาศัยอยู่มากเป็นอันดับ 2 โดยมีคนไทยอาศัยอยู่ราว ๆ 100,000 คน เพราะออสเตรเลียอยู่ไม่ไกลจากประเทศไทยมากเกินไป มีสภาพอากาศที่ดีและผู้คนเป็นมิตร มีชุมชนชาวไทยอยู่ การขอวีซ่าก็สามารถขอได้ไม่ยากเกินไปนัก ทำให้เป็นประเทศที่คนไทยย้านถิ่นฐานไปอยู่อาศัยกันเป็นจำนวนมากและเพราะระยะทางไม่ได้ไกลจากไทยมากนักค่าส่งของไปออเตรเลียจึงไม่แพงมากนัก ของถึงปลายทางภายใน 2-3 วันเท่านั้น

แคนาดา

แคนาดาเป็นประเทศที่อยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ ติด ๆ กับสหรัฐอเมริกา เป็นประเทศพัฒนาแล้วที่มีค่าแรงสูง ทำให้มีคนไทยย้ายถิ่นฐานไปทำงานกันเป็นจำนวนมาก แต่ด้วยความที่คนเอเชียในประเทศแคนาดายังมีจำนวนไม่มากนักเหมือนในสหรัฐอเมริกา หรือออสเตรเลีย ทำให้การหาซื้อสินค้าที่คุ้นเคยเป็นไปได้ยาก จึงทำให้มีการส่งของไปแคนาดามากเป็นอันดับต้น ๆ โดยเฉพาะผงเครื่องแกงสำเร็จรูป พริกแกง น้ำพริกต่าง ๆ ผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน และอุปกรณ์ทำอาหารอย่างครก และสาก

ญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นประเทศยอดนิยมเป็นจุดหมายปลายทางทั้งในด้านการท่องเที่ยว และการไปทำงาน ในปัจจุบันมีคนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นกว่า 90,000 คนเป็นรองเพียงแค่ สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลียเท่านั้น ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลจากไทยมาก เดินทางโดยเครื่องบินเพียงราว ๆ 7 ชั่วโมง เชื่อหรือไม่ว่าตอนนี้อาหารไทย และสินค้าหลาย ๆ อย่างจากไทยเป็นที่นิยมมากในหมู่คนญี่ปุ่น ทำให้มีความต้องการส่งของไปญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก โดยสินค้าที่มักจะส่งไปคือ เครื่องปรุงรสต่าง ๆ จากไทย เครื่องแกง พริกแกง น้ำพริกต่าง ๆ รวมทั้งเครื่องครัวไทยอย่างกระทะ จาน ช้อนส้อม เตาหมูกระทะ เพราะมีร้านอาหารไทยในญี่ปุ่น ที่ต้องการจะตกแต่งร้าน ให้ได้บรรยากาศเหมือนอยู่ประเทศไทย

นิวซีแลนด์

นิวซีแลนด์เป็นประเทศเกาะเล็ก ๆ ที่อยู่ใกล้ ๆ กับออสเตรเลียมีธรรมชาติที่สวยงาม ดังนั้นจึงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของคนไทยหลาย ๆ คนชุมชนคนเอเชียก็ยังไม่ได้ใหญ่มากเหมือนหลาย ๆ ประเทศที่มีคนเอเชียไปตั้งถิ่นฐานกันเหมือนประเทศใหญ่หลาย ๆ ประเทศ เลยต้องพึ่งพาการส่งของไปนิวซีแลนด์จากไทย สินค้ายอดนิยมที่มักจะส่งไปประเทศนิวซีแลนด์คือ ยาดม ยาหม่อง เสื้อผ้า ผงปรุงรส และเครื่องแกงกึ่งสำเร็จรูปต่าง ๆ และเพราะอยู่ไม่ไกลจากไทยมาก จึงใช้เวลาส่งของเพียงแค่ 2-3 วันเท่านั้น

เกาหลีใต้

เกาหลีใต้เป็นอีกหนึ่งประเทศที่คนไทยทั้งไปทำงาน และไปเที่ยวเยอะมาก การไปตามรอยซีรี่ย์เกาหลีก็เป็นความฝันของคนไทยหลาย ๆ คน และเพราะคนไทยไปอยู่เยอะ จึงมีความต้องการสินค้าจากไทย การส่งของไปเกาหลีให้กับคนที่อาศัยอยู่ที่นั่นจึงเป็นเรื่องปกติ สินค้าที่เป็นที่นิยมในการส่งไปเกาหลีก็มักจะเป็นเสื้อผ้า ปลาร้าบรรจุขวด ผลไม้ดอง ผงปรุงรสต่าง ๆ แถมยังใช้เวลาไม่นานปกติเพียง 1-2 วันก็ถึงมือผู้รับแล้ว

อยากส่งของไปต่างประเทศ ต้องทำยังไงบ้าง?

สามารถติดต่อสาขาใกล้บ้านคุณได้เลย โดยเราให้บริการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศทั่วโลก แพ็คของให้ฟรี เพียงนำสินค้าไปที่สาขาของเราคุณก็สามารถส่งของไปต่างประเทศได้เลย

Facebook – SXD Express ส่งของไปต่างประเทศ

https://line.me/R/ti/p/%40607nlmak – Line

โทร 089-345-1000