จับตาเทรนด์ E-Commerce ที่น่าสนใจในปี 2020

ปัจจุบันธุรกิจ E-Commerce ในประเทศไทยเติบโตขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีสำหรับธุรกิจขายของออนไลน์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จึงต้องเพิ่มช่องทางขายผ่านออนไลน์ควบคู่กับหน้าร้านไปด้วย เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าในยุคปัจจุบันได้มากกว่า ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีและสื่อต่างๆมีอิทธิพลต่อการซื้อขายสินค้าและการทำธุรกิจเป็นค่อนข้างมาก เนื่องจากคนส่วนมักใช้เวลาไปกับการท่องอินเทอร์เน็ตและซื้อของออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ตลาด E-Commerce เป็นช่องทางที่ช่วยสร้างโอกาสให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นถ้าผู้ประกอบการตามทันเทรนด์ E-Commerce ที่น่าสนใจในปี 2020 นี้ได้ แน่นอนว่าจะต้องส่งผลดีต่อธุรกิจของคุณได้มากเลยทีเดียว

การซื้อของออนไลน์ได้รับความนิยมมากขึ้น

เทคโนโลยีในปัจจุบันส่งผลให้มนุษย์มีพฤติกรรมการซื้อสินค้าที่เปลี่ยนไป หันมาใช้ช่องทางการซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ที่มีความสะดวกสบาย ประหยัดเวลา สามารถเลือกซื้อได้ง่ายไม่ต่างกับการเดินช้อปปิ้ง เปรียบเทียบราคาได้ง่ายหลากหลายแหล่งในเวลาที่รวดเร็ว บอกรายละเอียดสินค้าครบถ้วน ชำระเงินด้วยระบบออนไลน์อย่างง่ายดาย ซึ่งในปัจจุบันการซื้อของออนไลน์เป็นการค้าที่ไร้พรมแดน เติบโตมากขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับแพลตฟอร์ม E-Commerce ที่พัฒนาให้ตอบโจทย์ธุรกิจออนไลน์ได้อย่างครอบคลุมทั่วโลกมากขึ้น

เทรนด์รักษ์โลกกำลังมาแรง

คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เน้นการซื้อสินค้าที่ใช้วัสดุย่อยสลายง่าย สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ มีดีไซน์ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ใช้พลังงานสะอาด ใส่ใจสิ่งแวดล้อม รวมถึงมีทัศนคติเกี่ยวกับการใช้ชีวิตที่เบียดเบียนธรรมชาติให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดังนั้นหากปรับธุรกิจให้ทันกระแสรักษ์โลกได้ จะสามารถขายสินค้าได้มากขึ้นอย่างแน่นอน

นิยมซื้อของผ่านมือถือเพิ่มขึ้น

ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือถูกพัฒนาให้มีฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน เป็นรูปแบบสมาร์ทโฟนที่ตอบโจทย์การใช้งานคล้ายกับคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กกะทัดรัด ดังนั้นธุรกิจ E-Commerce ในปัจจุบันจะต้องออบแบบเว็บไซต์ให้แสดงผลได้ดีสำหรับมือถือ ซึ่งเป็นผลดีทำให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าได้สะดวกสบายมากขึ้น อีกทั้งยังเกี่ยวข้องกับการค้นหาใน Google อีกด้วย เพราะระบบจะให้ความสนใจเว็บไซต์ที่แสดงผลได้ดีในมือถือมากกว่า

ช้อปปิ้งด้วยเสียงกำลังเติบโต

เทคโนโลยีในปัจจุบันพัฒนาขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งการสั่งซื้อสินค้าผ่านเสียงพูด หรือ Voice Commerce เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่น่าสนใจและกำลังมาแรงในต่างประเทศ โดยการทำงานของเทคโนโลยีนี้ ผู้ใช้สามารถพูดประโยคคำสั่งด้วยภาษาพูด จากนั้นระบบจะประมวลผลและทำการซื้อสินค้า ซึ่งจากสถิติร้านค้าออนไลน์ชื่อดังอย่าง Amazon ประเมินว่ามีการซื้อขายผ่านเสียงในปี 2020 นี้จุสูงถึง 40,000 ล้านเหรียญเลยทีเดียว

แพลตฟอร์มออนไลน์เชื่อมโยงธุรกิจ

ร้านค้าออนไลน์ คือ สื่อกลางในการซื้อขายสินค้าผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ต เปรียบเสมือนหน้าร้านที่สามารถขายสินค้าได้อีกช่องทางในโลกออนไลน์ โดยผ่านการใช้เทคโนโลยีที่อำนวยความสะดวกให้การขายสะดวกง่ายดายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เว็บไซต์ แพลตฟอร์ม ระบบจัดการซื้อขาย รวมถึง สื่อโซเซียลมีเดียต่างๆ ซึ่งทำให้ลูกค้าไม่จำเป็นต้องเดินทางมาซื้อสินค้าเอง สามารถซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง ลดต้นทุนทางธุรกิจ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย และสะดวกต่อการจัดการสต๊อกสินค้ามากขึ้นด้วย

เข้าสู่ยุคสังคมไร้เงินสด

สังคมไร้เงินสด (Cashless Society) แนวคิดสังคมเศรษฐกิจที่ไร้การใช้เงินสด และแทนที่ด้วยระบบคอมพิวเตอร์หรือแอปพลิเคชั่น ที่ง่ายต่อการชำระเงิน สะดวกสบาย รวดเร็ว เช่น การโอนเงินผ่านแอปพลิเคชัน การหักบัญชีอัตโนมัติ รวมถึงการใช้ระบบ e-Wallet ผ่านการสแกนบาร์โค้ด หรือ QR Code เช่น TureMoney , Airpay , Rabbit Line Pay , Samsung Pay , mPay , We Pay เป็นต้น ดังนั้นหากธุรกิจของคุณมีการรองรับการใช้ระบบไร้เงินสดได้ ก็จะสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ดีกว่

อัพเดตกลยุทธ์การตลาดออนไลน์

ธุรกิจ E-Commerce และธุรกิจอื่นๆ ต้องปรับตัวให้เข้ากับการตลาดออนไลน์ในยุคดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป การทำการตลาดต้องอาศัยโอกาสในการใช้สื่อออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ด้วยการนำเสนอสินค้าให้ครอบคลุม และตอบโจทย์มากที่สุด ให้ความสำคัญทั้งออนไลน์และออฟไลน์อย่างเท่าเทียบ เจาะกลุ่มลูกค้าให้ตรงประเด็น สื่อสารกับกลุ่มลูกค้าผ่านคอนเทนต์ที่ตรงความต้องการ เกาะกระแสด้วยการขายที่ต้องมาคู่กับความบันเทิง เพื่อการเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น เช่น การ Live สด การสร้างช่อง Youtube รวมถึงการสร้างคอนเทนต์สุดครีเอทีฟด้วยศิลปะกราฟิก ต่างๆ

ขอบคูณภาพจาก : www.freepik.com