เดือนกุมภาพันธ์ได้ชื่อว่าเป็นเดือนแห่งความรัก และทุก ๆ วันที่ 14 คือวันวาเลนไทน์ วันแห่งความรักที่คู่หนุ่มสาวทั่วโลกมักจะใช้วันนี้เป็นวันที่แสดงออกถึงความรักที่มีให้กันและกัน ไม่มีแหล่งที่มาแน่ชัดว่าการเฉลิมฉลองวันวาเลนไทน์เริ่มต้นจากที่ไหน แต่มีเรื่องเล่าที่เชื่อกันว่า นักบุญท่านหนึ่งนามว่า St. Valentine ได้แอบจัดพิธีแต่งงานให้กับ ทหารคนหนึ่งซึ่งถูกห้ามไม่ให้แต่งงานโดยจักรพรรดิ์โรมันระหว่างที่เขาถูกจองจำ เขาได้หลงรักลูกสาวของผู้คุมขังเข้าและได้ส่งจดหมายรักให้กับเธอและได้ลงชื่อท้ายจดหมายไว้ว่า From your Valentine.

พัฒนาการของวันวาเลนไทน์

ในช่วงปลายของยุควิคตอเรี่ยนต้นศตวรรตที่ 19 ได้เป็นช่วงที่เริ่มมีการเฉลิมฉลองวันวาเลนไทน์ และเผยแพร่วัฒนธรรมนี้ไปทั่วโลก มีการพิมพ์การ์ดอวยพร ส่งข้อความถึงคนรักเป็นจำนวนมาก เหล่าพ่อค้าต่างเห็นโอกาสที่จะสร้างผลกำไรจากโอกาสแสนพิเศษนี้ จึงได้ทำให้เกิดวัฒนธรรมการแลกของขวัญกัน หรือส่งเสริมให้คู่หนุ่มสาว ได้รับประทานอาหารค่ำใต้แสงเทียนที่แสนโรแมนติก

แล้วการให้ช็อคโกแล็ตเกิดขึ้นได้ยังไง?

ที่จริงแล้ววัฒนธรรมการให้ช็อคโกแลตแก่คนรักนั้น ไม่ได้เป็นสิ่งที่นิยมทำกันทั่วโลกอย่างที่หลาย ๆ คนเข้าใจกันโดยแรกเริ่มนั้นเกิดจากในยุโรปและอเมริกา ที่ของหวานและช็อคโกแล็ตมักจะเชื่อมโยงกับความหรูหรา และมอบความสุขให้กับผู้ที่ได้รับ นอกจากนี้ช็อคโกแล็ตนั้นเมื่อเป็นช็อคโกแล็ตทำเองด้วยแล้ว ยิ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของความเสน่หาและความหลงไหลในตัวผู้รับ

จนเมื่อมาถึงยุคอุตสาหกรรมที่ช็อคโกแล็ตได้ถูกทำได้ง่ายขึ้น และมีราคาที่ถูกลง บริษัทผู้ผลิตช็อคโกแล็ตอย่าง Richard Cadbury ได้เห็นโอกาสในการเพิ่มยอดขายเป็นอย่างมากในวันวาเลนไทน์ เขาจึงได้ทุ่มทำการตลาดอย่างหนักหน่วงในช่วงวันลาเลนไทน์ อย่างเช่นการทำกล่องช็อคโกแล็ตรูปหัวใจ, ข้อความสุดโรแมนติกติดไปให้ลูกค้า ซึ่งการตลาดนี้ก็ได้ผล และทำให้การมอบช็อคโกแล็ตให้แก่กันในหมู่คู่รักหนุ่มสาว

อิทธิพลของสื่อ และป็อปคัลเจอร์

และการมาถึงของสื่ออย่าง ทีวี ภาพยนต์ ละครต่าง ๆ ก็เลยยิ่งทำให้การเผยแพร่วัฒนธรรมการมอบช็อคโกแล็ตเป็นของขวัญให้แก่กันในวันวาเลนไทน์เป็นที่แพร่หลายมากยิ่งขึ้น จนวัฒนธรรมการมอบช็อคโกแล็ตให้แก่กันนี้แพร่หลายไปทั่วโลก และประเทศที่ได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมโรแมนติกนี้เป็นอย่างมากคือประเทศญี่ปุ่น

วันวาเลนไทน์กับประเทศญี่ปุ่น

ประเทศญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศที่หนุ่มสาวได้รับอิทธิพลจากสื่อตะวันตก และได้นำวัฒนธรรมการส่งช็อคโกแล็ตให้กันในวันวาเลนไทน์มาปรับใช้เข้ากับวัฒนธรรมของตัวเอง และมีการคิดพัฒนาวัฒนธรรมการมอบช็อคโกแล็ตให้กันไปอีกขั้นหนึ่ง มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองแบบที่ประเทศอื่นไม่มี และด้วยการที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีการผลิตสื่อ ป็อปคัลเจอร์ที่โด่งดังและเป็นที่นิยมไปทั่วโลกออกมาเป็นจำนวนมาก จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่วัฒนธรรมวันวาเลนไทน์แบบญี่ปุ่น จะยิ่งเผยแพร่ไปอยู่ในใจของคนทั่วทั้งโลก

เราจะได้เห็นจากในหนัง, ละคร, มังงะ(การ์ตูน) ที่หญิงสาวมักจะมอบช็อคโกแล็ตทำมือด้วยตัวเอง เป็นของขวัญแสดงความรักให้แก่ตัวเอกในช่วงวันวาเลนไทน์ในเกือบทุกเรื่อง นอกจากนี้วัฒนธรรมการให้ช็อคโกแล็ตแบบญี่ปุ่น ไม่ได้จำเป็นว่าจะต้องเป็นผู้หญิงให้ช็อคโกแล็ตเป็นของขวัญแก่ผู้ชายเท่านั้น เพราะการให้ช็อคโกแล็ตจะมีถึง 3 แบบ

กิริช็อคโก – ช็อคโกแล็ตแสดงความขอบคุณ

ช็อคโกแล็ตแบบที่เรียกว่า กิริช็อคโก นั้นโดยมากมักจะเป็นช็อคโกแล็ตชิ้นเล็ก ๆ ราคาไม่แพงที่สาว ๆ จะแจกให้แก่เพื่อนร่วมงาน, ครอบครัว, เพื่อนหรือคนรู้จัก เพื่อแสดงความขอบคุณเป็นมารยาท โดยช็อคโกแล็ตแบบนี้จะไม่มีความหมายในด้านความรักแฝงอยู่แต่อย่างใด

ฮงเมช็อคโก – ช็อคโกแล็ตแสดงความรัก

ฮงเมหมายถึง “ของแท้, ของจริง” คือช็อคโกแล็ตที่สาว ๆ จะเก็บไว้มอบให้แก่คนพิเศษเท่านั้น โดยช็อคโกแล็ตแบบนี้สาว ๆ มักจะเลือกช็อคโกแล็ตให้กับคนรักอย่างพิถีพิถันหรือจะเป็นการทำช็อคโกแล็ตด้วยตัวเองเพื่อแสดงถึงความเอาใจใส่ และความรักที่มีให้กับคนพิเศษ ดังนั้นหากคุณได้รับช็อคโกแล็ตแบบที่มีความสวยงามเป็นพิเศษ เห็นได้ถึงความมุ่งมั่นตั้งใจแล้วล่ะก็ คุณคือคนพิเศษในใจของเธอแล้วล่ะ!

โทโมะช็อคโก – ช็อคโกแล็ตที่มอบให้กับเพื่อน

ถึงแม้ว่าวันวาเลนไทน์จะป็อปปูล่ามากแค่ไหนแต่ก็มีคนบางส่วนที่ไม่อินกับวันวาเลนไทน์ โดยเฉพาะเหล่าคนโสดทั้งหลาย แต่ไม่ต้องเสียใจไป เพราะในวัฒนธรรมญี่ปุ่นนั้น สาว ๆ ก็มักจะมีช็อคโกแล็ตที่มักจะเตรียมมาไว้มอบให้กับเหล่าเพื่อน ๆ ให้เยียวยาจิตใจแก่เหล่าคนโสด เช่นเดียวกับกิริช็อคโกที่ผู้ให้ มักจะให้เป็นมารยาท ตามความสัมพันธ์ไม่มีความหมายแฝงแต่อย่างใด

ไวท์เดย์ – วันตอบแทนความรัก

ประเทศญี่ปุ่นนอกจากจะมีวันวาเลนไทน์ที่สาว ๆ จะมอบช็อคโกแล็ตให้แล้ว ผู้ได้รับก็ควรจะตอบแทนความรู้สึกของผู้ให้ซึ่งก็คือวันไวท์เดย์ วันที่ 14 มีนาคม ที่หนุ่ม ๆ ควรจะตอบรับความรู้สึกด้วยการมอบของขวัญตอบแทนให้ อย่างกิริช็อคโก หนุ่มๆ ที่ได้รับก็มักจะตอบแทนกลับด้วย ลูกอม ขนมหวานต่าง ๆ หรือหากได้รับ ฮงเมช็อคโกแล้วล่ะก็ วันนี้คือวันที่ต้องให้คำตอบ แก่ความรู้สึกที่สาว ๆ มีให้นะ

แล้วในประเทศไทยล่ะ?

คนไทยก็ได้รับอิทธิพลมาจากสื่อบันเทิงของญี่ปุ่นเป็นจำนวนมากเช่นกันทำให้ได้รับวัฒนธรรมการมอบช็อคโกแล็ตเป็นของขวัญแสดงความรักเหมือนญี่ปุ่น แต่ในประเทศไทยการที่ผู้ชายจะให้ดอกกุหลาบแก่ผู้หญิงจะเป็นที่นิยมมากกว่า การที่ผู้ชายจะเป็นฝ่ายมอบดอกกุหลาบให้แก่หญิงคนพิเศษที่ตัวเองรัก ไม่มีที่มาว่าวัฒนธรรมการให้ดอกกุหลาบในวันวาเลนไทน์นี้มีจุดเริ่มต้นมาจากไหน แต่ดูเหมือนว่า ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ ทุก ๆ คนก็รู้ว่าเป็นวันแห่งความรักที่อย่างน้อยก็ควรจะมีการทำอะไรให้แก่คนรักเป็นพิเศษ เพื่อแสดงความรักที่มีต่อกันนะ หากไม่ได้เตรียมของขวัญสุดพิเศษให้ ก็ลองพาคนรักของคุณไปดินเนอร์ ใต้แสงเทียนสุดโรแมนติกดูค่ะ

แต่คนพิเศษของเราอยู่ต่างประเทศ ทำยังไงดีล่ะ?

รักแท้มักแพ้ระยะทาง ถึงแม้ยุคนี้จะเป็นยุคสมัยที่การเดินทางสะดวกสบาย เดินทางไปหากันได้ทั่วโลก และยังมี Internet ที่สามารถเชื่อมต่อพูดคุยกันได้ทุกที่ทุกเวลา แต่บางครั้งการเหินห่างกันนานเกินไปก็อาจจะทำให้ความรักจืดจางลงไปได้ ถ้าหากคุณมีแผนจะเซอไพรซ์คนรักของคุณด้วยของขวัญสุดพิเศษล่ะก็ Siam.delivery มีบริการที่จะส่งของด่วนไปต่างประเทศให้กับคนรักของคุณได้ ภายในไม่กี่วันนะ

ติดต่อเราได้ตามช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

Facebook – SXD Express ส่งของไปต่างประเทศ

https://line.me/R/ti/p/%40607nlmak – Line

โทร 089-345-1000