Green Clothing เทรนด์เสื้อผ้ารักษ์สิ่งแวดล้อม
สู่โอกาสส่งออกของ “ชุดพื้นเมืองไทย”

เมื่อพฤติกรรมในการบริโภคสินค้าเริ่มเปลี่ยนไป จากความนิยมของผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อม และกระแสการใช้ชีวิตแบบ Back to basic เริ่มเป็นเทรนด์ขึ้นมาอีกครั้ง ส่งผลให้ผู้ประกอบการหลายๆ ธุรกิจเริ่มมีการปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตสินค้า รวมถึงดีไซน์ของสินค้าให้มีความเรียบง่าย แต่ยังคงความมีสวยงามอย่างมีคุณภาพไว้ เพื่อให้สะท้อนความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้เข้ากับนโยบายที่เป็นธุรกิจสีเขียวแบบยั่งยืน ให้สามารถคว้าใจของผู้บริโภคยุคปัจจุบันได้มากที่สุด

อุตสาหกรรมแฟชั่นคือหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีขั้นตอนการผลิตโดยการใช้ทรัพยากรธรรมชาติจำนวนมาก และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Fast Fashion ที่เป็นสินค้าที่มีการผลิตอย่างรวดเร็วเพื่อให้ทันกระแสนิยมของผู้บริโภค จนทำให้เพิ่มการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมหาศาลต่อการผลิตในแต่ละปี ทำให้ผู้ประกอบการด้านเสื้อผ้าแฟชั่นจำเป็นจะต้องเปลี่ยนแปลงให้แบรนด์ของตนมีจุดเด่นในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อแผนการตลาดในการดึงดูดความสนใจของลูกค้ากลุ่มรักษ์โลกด้วยเช่นกัน ผ่านการกำหนดนโยบายเกี่ยวกับ Green Clothing ปรับแบรนด์ตนเองให้ตระหนักถึงความสำคัญต่อการทำลายสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ผลิตเสื้อผ้าที่มีคุณภาพใช้งานได้ยาวนาน คุ้มค่าคุ้มราคา ย่อยสลายง่าย เพื่อลดกระบวนการผลิตและกำหนดทิศทางใหม่ของวงการแฟชั่นให้มีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น

Green Clothing คืออะไร?

เทรนด์นี้กำลังเป็นที่นิยมต่อวงการแฟชั่นทั่วโลก เพื่อลดกระบวนการผลิตสินค้าเสื้อผ้าแฟชั่นที่เป็นต้นเหตุในการทำลายสิ่งแวดล้อม เป็นพิษต่อธรรมชาติ หรือกระทบต่อโลกมนุษย์และสัตว์ต่างๆ โดยการปรับเปลี่ยนให้เป็นไปตามแนวคิดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าอย่างยั่งยืน เช่น

  • การใช้เส้นใยธรรมชาติ หรือ ใยผ้าจากขยะรีไซเคิล
  • กระบวนการผลิตที่ใช้นวัตกรรมลดการทำลายสิ่งแวดล้อม
  • งดการใช้วัสดุจากพลาสติกให้มากที่สุด
  • ใช้วัสดุหรือชิ้นส่วนที่ย่อยสลายได้ง่าย
  • ไม่ทารุณสัตว์หรือใช้ชิ้นส่วนของสัตว์เป็นส่วนประกอบ
  • การออกแบบให้ดูแลรักษาได้ง่ายและประหยัดพลังงาน
ชุดพื้นเมืองไทย
ชุดพื้นเมืองไทย

โอกาสทองในการส่งออกชุดพื้นเมืองไทย

จากกระแส Green Clothing ที่เริ่มมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น และเข้าสู่ธุรกิจรายย่อยทั่วโลก ส่งผลดีกับสินค้าผ้าพื้นเมืองไทย ในการสร้างความโดดเด่นและส่งออกก้าวสู่ตลาดโลกได้ไม่แพ้ชาติอื่นๆ ซึ่งแน่นอนว่าเสื้อผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ของไทย คือ ชุดพื้นเมืองไทยของแต่ละภาค ที่ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติทั้งจากฝ้ายและไหม รวมไปถึงมีขั้นตอนการทอที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าอุตสาหกรรมผ้าโรงงาน อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมรายได้ให้กับชุมชนและสร้างมูลค่าให้กับภูมิปัญญาของไทยได้อีกด้วย

จุดเด่นของชุดพื้นเมืองไทย

ชุดพื้นเมืองไทยจากผ้าฝ้าย : เนื่องจากไทยเป็นพื้นที่เขตร้อนและมีภูมิอากาศที่เหมาะสมต่อการปลูกฝ้าย ทำให้ฝ้ายเป็นพืชที่หาได้ง่าย ต้นทุนต่ำ และทำให้เสื้อผ้ามีจุดเด่นเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก ในเรื่องการสวมใส่ที่สบายและระบายอากาศได้ดี

 

ชุดพื้นเมืองไทยจากผ้าไหม : เส้นใยธรรมชาติที่ผลิตจากรังไหม ซึ่งประเทศไทยมีภูมิอากาศที่เหมาะกับการเลี้ยงตัวไหมได้ทั่วทุกพื้นที่ อีกทั้งผ้าไหมไทยยังเป็นสินค้าประจำชาติที่มีคุณค่าและมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก จุดเด่นคือเป็นเส้นใยที่สวยงาม มีความมันวาว ลวดลายที่งดงามประณีตบรรจง และเนื้อผ้าสามารถยืดหยุ่นได้ดี

เมื่อนิยามความสวยงามทางด้านแฟชั่นปรับเปลี่ยนไป และให้คุณค่ากับกระบวนการที่ทำให้ได้มาซึ่งสินค้ามากขึ้น จึงทำให้ชุดพื้นเมืองไทยสามารถคว้าโอกาสการส่งออกนี้ไว้ได้อย่างง่ายดายไม่แพ้ประเทศอื่นๆ อีกทั้งในปัจจุบันตลาดโลกมีการเชื่อมโยงได้รวดเร็วและสะดวกขึ้น ทำให้ธุรกิจสามารถก้าวสู่โอกาสทางการขายได้มากขึ้นไปอีกขั้น ผ่านการขายสินค้าบนเว็บไซต์มาร์เก็ตเพลสต่างๆ ที่เริ่มต้นได้ง่ายๆ หากผู้ประกอบการท่านใดที่สนใจส่งออกชุดพื้นเมืองไทยไปยังต่างประเทศ และกำลังมองหาขนส่งที่มีประสิทธิภาพ สามารถขนส่งได้ครอบคลุมมากถึง 220 ประเทศทั่วโลก Siam Express Delivery เรายินดีให้บริการเพื่อเป็นหนึ่งในความสำเร็จของธุรกิจของคุณ